...

วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กิจกรรมที่ 3



                                              นายแพทย์ประเวศ วะสี
1.ประวัติ
        วัน เดือน ปี เกิด 5 สิงหาคม  พ.ศ. 2474  ที่บ้านเลขที่  ค. 103 ริมฝั่งแควน้อย  ตำบลบ้านเหนือ  อำเภอเมือง  จังหวัดกาญจนบุรี เป็นบุตรคนที่ 4 ของนายคลายและนางกิม วะสี
       ประวัติการศึกษา
- ศึกษาขั้นต้นชั้นมูลที่โรงเรียนวัดเทวสังฆาราม  (วัดเหนือ)
- 2485  จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนประชาบาลตำบลเกาะสำโรง
- ชั้นมัธยมที่โรงเรียนวิสุทธรังสีจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- พ.ศ. 2490 ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดม
- พ.ศ. 2492 สามารถสอบเข้าเรียนต่อชั้นเตรียมแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย     
- 2498  สำเร็จการศึกษาคณะแพทยศาสตร์บัณฑิตเกียรตินิยมเหรียญทอง  มหาวิทยาลัยมหิดล
- 2503  Ph.D.  มหาวิทยาลัยโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา มนุษยพันธุศาสตร์ (Human Genetics)
- 2504 มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ
2.ผลงาน
          ด้านการโลหิตวิทยา ได้รับทุนวิจัยจากกระทรวงสาธรณสุข และของ China Medical Board วิจัยธรรมชาติของเลือดเกี่ยวกับความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงเนื่องจากกรรมพันธุ์ ที่ก่อให้เกิดโรคโลหิตจาง และพบวิธีการป้องกันรักษา ผลงานวิจัยเป็นที่ยอมรับทั่วภายในและต่างประเทศ และได้รับเชิญไปบรรยาย ณ มหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยหลายแห่งเกือบทุกทวีปทั่วโลก บทความทางวิชาการได้รับการตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศมากกว่า 200 เรื่อง นอกจากนั้นยังได้แต่งตำราวิชาโลหิตและคู่มือโลหิตวิทยา และยังได้รับทุนวิจัยของ National Institute of Health ประเทศสหรัฐอเมริกา
          ด้านพัฒนาวิชาชีพ โดยการใช้ความรู้ความสามารถพัฒนาวิชาชีพของแพทย์ด้วยหารศึกษาค้นคว้าวิทยาการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง  และอุทิศเวลาให้กับการสอนนักศึกษาแพทย์ด้วยความเอาใจใส่
          ด้านพัฒนาสังคม  การกระจายความรู้ด้านการแพทย์และอนามัยให้แก่ประชาชนทั่วไปโดยการเขียนหนังสือและบทความต่างๆ  โดยเน้นเรื่องการป้องกันการพึ่งพาตนเองในการรักษา และก่อตั้งมูลนิธิที่เกี่ยวกบการพัฒนามังคม  เช่น  มูลนิธิหมอชาวบ้าน   มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และเผยแพร่ความคิดเกี่ยวหับการศึกษาตลอดชีวิต
          ด้านคุณภาพชีวิตของเด็กไทย    การก่อตั้งมูลนิธิเด็กให้เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน   ซึ่งทำงานด้านการให้ความช่วยเหลือด้านปัจจัย  4    ทำให้ปัจจุบันหน่วยงานต่างเริ่มหันมาสนใจในการแก้ปัญหาและพัฒนาเกี่ยวกับเด็กมากขึ้น

3.เราชอบผู้นำทางวิชาการในประเด็น
1.     เป็นผู้ที่มีความพยายามในการศึกษาหาความรู้  
        จากประวัติการศึกษาจะเห็นว่าท่านเป็นผู้ที่จบการศึกษาจากหลายคณะ หลายสถาบันเช่น คณะแพทยศาสตรมหาลัยจุฬาลงกรณ์และมหาลัยมหิดลยังได้รับรางวัลเหรียญทองในการศึกษา   นอกจากนี้ท่านยังได้ศึกษาต่อต่างประเทศที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด  มนุษยพันศาสตร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา  และมหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเพียรพยายามในการศึกษาเล่าเรียน
2.    มีความพยายาม
                   จากประวัติการทำงานและประวัติการศึกษานั้นจะเห็นได้ว่าท่านเป็นผู้ที่มีความเพียรพยายามในการทำงาน ท่านได้ทำงานในที่ต่างๆมากมายเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานมาก
3.     มีน้ำใจ เอื้อเฝื้อต่อเพื่อนมนุษย์
           จากด้านผลงานของท่านทำให้ทราบว่าท่านเป็นผู้มีความเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่  เนื่องจากท่านเอาใจใสประชาชน ท่านให้ความรู้ด้านการแพทย์และการอนามัยแก่ประชาชนโดยทั่วไป ก่อตั้งมลนิธิที่เกี่ยวกับการพัฒนาชีวิต
4.       มีความเสียสละโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตน
            ท่านเป็นผู้ที่อุทิศเวลาในการสอนหนั้งสือให้กับนักศึกษาแพทย์ด้วยความเอาใจใส่  และยังก่อตั้งมูลนิธิเด็กให้เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน   ซึ่งทำงานด้านการให้ความช่วยเหลือด้านปัจจัย  4    ทำให้ปัจจุบันหน่วยงานต่างเริ่มหันมาสนใจในการแก้ปัญหาและพัฒนาเกี่ยวกับเด็กมากขึ้น

                                                                         
    นายแพทย์ประเวศ วะสี
1.ประวัติ
        วัน เดือน ปี เกิด 5 สิงหาคม  พ.ศ. 2474  ที่บ้านเลขที่  ค. 103 ริมฝั่งแควน้อย  ตำบลบ้านเหนือ  อำเภอเมือง  จังหวัดกาญจนบุรี เป็นบุตรคนที่ 4 ของนายคลายและนางกิม วะสี
       ประวัติการศึกษา
- ศึกษาขั้นต้นชั้นมูลที่โรงเรียนวัดเทวสังฆาราม  (วัดเหนือ)
- 2485  จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนประชาบาลตำบลเกาะสำโรง
- ชั้นมัธยมที่โรงเรียนวิสุทธรังสีจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- พ.ศ. 2490 ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดม
- พ.ศ. 2492 สามารถสอบเข้าเรียนต่อชั้นเตรียมแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย     
- 2498  สำเร็จการศึกษาคณะแพทยศาสตร์บัณฑิตเกียรตินิยมเหรียญทอง  มหาวิทยาลัยมหิดล
- 2503  Ph.D.  มหาวิทยาลัยโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา มนุษยพันธุศาสตร์ (Human Genetics)
- 2504 มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ
2.ผลงาน
          ด้านการโลหิตวิทยา ได้รับทุนวิจัยจากกระทรวงสาธรณสุข และของ China Medical Board วิจัยธรรมชาติของเลือดเกี่ยวกับความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงเนื่องจากกรรมพันธุ์ ที่ก่อให้เกิดโรคโลหิตจาง และพบวิธีการป้องกันรักษา ผลงานวิจัยเป็นที่ยอมรับทั่วภายในและต่างประเทศ และได้รับเชิญไปบรรยาย ณ มหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยหลายแห่งเกือบทุกทวีปทั่วโลก บทความทางวิชาการได้รับการตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศมากกว่า 200 เรื่อง นอกจากนั้นยังได้แต่งตำราวิชาโลหิตและคู่มือโลหิตวิทยา และยังได้รับทุนวิจัยของ National Institute of Health ประเทศสหรัฐอเมริกา
          ด้านพัฒนาวิชาชีพ โดยการใช้ความรู้ความสามารถพัฒนาวิชาชีพของแพทย์ด้วยหารศึกษาค้นคว้าวิทยาการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง  และอุทิศเวลาให้กับการสอนนักศึกษาแพทย์ด้วยความเอาใจใส่
          ด้านพัฒนาสังคม  การกระจายความรู้ด้านการแพทย์และอนามัยให้แก่ประชาชนทั่วไปโดยการเขียนหนังสือและบทความต่างๆ  โดยเน้นเรื่องการป้องกันการพึ่งพาตนเองในการรักษา และก่อตั้งมูลนิธิที่เกี่ยวกบการพัฒนามังคม  เช่น  มูลนิธิหมอชาวบ้าน   มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และเผยแพร่ความคิดเกี่ยวหับการศึกษาตลอดชีวิต
          ด้านคุณภาพชีวิตของเด็กไทย    การก่อตั้งมูลนิธิเด็กให้เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน   ซึ่งทำงานด้านการให้ความช่วยเหลือด้านปัจจัย  4    ทำให้ปัจจุบันหน่วยงานต่างเริ่มหันมาสนใจในการแก้ปัญหาและพัฒนาเกี่ยวกับเด็กมากขึ้น

3.เราชอบผู้นำทางวิชาการในประเด็น
1.     เป็นผู้ที่มีความพยายามในการศึกษาหาความรู้  
        จากประวัติการศึกษาจะเห็นว่าท่านเป็นผู้ที่จบการศึกษาจากหลายคณะ หลายสถาบันเช่น คณะแพทยศาสตรมหาลัยจุฬาลงกรณ์และมหาลัยมหิดลยังได้รับรางวัลเหรียญทองในการศึกษา   นอกจากนี้ท่านยังได้ศึกษาต่อต่างประเทศที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด  มนุษยพันศาสตร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา  และมหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเพียรพยายามในการศึกษาเล่าเรียน
2.    มีความพยายาม
                   จากประวัติการทำงานและประวัติการศึกษานั้นจะเห็นได้ว่าท่านเป็นผู้ที่มีความเพียรพยายามในการทำงาน ท่านได้ทำงานในที่ต่างๆมากมายเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานมาก
3.     มีน้ำใจ เอื้อเฝื้อต่อเพื่อนมนุษย์
           จากด้านผลงานของท่านทำให้ทราบว่าท่านเป็นผู้มีความเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่  เนื่องจากท่านเอาใจใสประชาชน ท่านให้ความรู้ด้านการแพทย์และการอนามัยแก่ประชาชนโดยทั่วไป ก่อตั้งมลนิธิที่เกี่ยวกับการพัฒนาชีวิต
4.       มีความเสียสละโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตน
            ท่านเป็นผู้ที่อุทิศเวลาในการสอนหนั้งสือให้กับนักศึกษาแพทย์ด้วยความเอาใจใส่  และยังก่อตั้งมูลนิธิเด็กให้เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน   ซึ่งทำงานด้านการให้ความช่วยเหลือด้านปัจจัย  4    ทำให้ปัจจุบันหน่วยงานต่างเริ่มหันมาสนใจในการแก้ปัญหาและพัฒนาเกี่ยวกับเด็กมากขึ้น

กิจกรรมที่ 3

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กิจกรรมที่2


ทฤษฎีและหลักการบริหารจัดการศึกษา

1. มีหลักการและทฤษฎีคือ
ทฤษฎีของมาสโลว์ ว่าด้วยการจัดอันดับขั้นของความต้องการของมนุษย์ (Maslow – Hierarchy of needs) เป็นเรื่องแรงจูงใจแบ่งความต้องการของมนุษย์ตั้งแต่ความต้องการด้านกายภาพ ความต้องการด้านความปลอดภัยความต้องการด้านสังคม ความต้องการด้านการเคารพ นับถือ และประการสุดท้าย คือ การบรรลุศักยภาพของตนเอง (Self actualization) คือมีโอกาสได้พัฒนาตนเองถึงขั้นสูงสุดจากการทำงาน แต่ความต้องการเหล่านี้ ต้องได้รับการตอบสนองตามลำดับขั้น
ทฤษฎี X ทฤษฎี Y ของแมคกรีกอร์ (Douglas MC Gregor Theory X, Theory Y ) เขาได้เสนอแนวคิดการบริหารอยู่บนพื้นฐานของข้อสมมติฐานเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ต่างกัน
ทฤษฎี X (The Traditional View of Direction and Control) ทฤษฎีนี้เกิดข้อสมติฐานดังนี้
     1. คนไม่อยากทำงาน และหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ
     2. คนไม่ทะเยอทะยาน และไม่คิดริเริ่ม ชอบให้การสั่ง
     3. คนเห็นแก่ตนเองมากว่าองค์การ
     4. คนมักต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
     5. คนมักโง่ และหลอกง่าย
     ผลการมองธรรมชาติของมนุษย์เช่นนี้ การบริหารจัดการจึงเน้นการใช้เงิน วัตถุ เป็นเครื่องล่อใจ เน้นการควบคุม การสั่งการ เป็นต้น
ทฤษฎี Y (The integration of Individual and Organization Goal) ทฤษฎีข้อนี้เกิดจากข้อสมติฐานดังนี้
     1. คนจะให้ความร่วมมือ สนับสนุน รับผิดชอบ ขยัน
     2. คนไม่เกียจคร้านและไว้วางใจได้
     3. คนมีความคิดริเริ่มทำงานถ้าได้รับการจูงใจอย่างถูกต้อง
     4. คนมักจะพัฒนาวิธีการทำงาน และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
     ผู้บังคับบัญชาจะไม่ควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเข้มงวด แต่จะส่งเสริมให้รู้จักควบคุมตนเองหรือของกลุ่มมากขึ้น ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน     
2.หลักการนำไปใช้แนวปฏิบัติ
     1. เน้นการเรียนการสอนตามสภาพจริง
     2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ค้นคว้าหาความรู้ ได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระสารมารถสรุปและสร้างความรู้ใหม่ๆได้จากข้อมูลได้
     3. นักเรียนเป็นผู้ปฏิบัติ ครูคือผู้อำนวยความสะดวก
     4. เน้นการปฏิบัติควบคู่กับหลักการและทฤษฎีมีกรอบแนวคิด หลักการ สู่การปฏิบัติ
     5. เน้นวิธีสอน การเรียนรู้ ให้หลากหลาย
     6. กระบวนการเรียนรู้สำคัญกว่าเนื้อหา
     7. ส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้กระบวนการคิดมากกว่าการหาคำตอบที่ตายตัวเพียงคำตอบเดียว
     8. ใช้กระบวนการกลุ่ม ในการเรียนรู้ ร่วมกับการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ดังนั้น ผู้เรียนสำคัญที่สุด จัดการเรียนรู้ให้หลากหลายวิธี ตามศักยภาพของผู้เรียน ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงมีการพัฒนาสติปัญญา อารมณ์ สังคม จิตใจ คุณธรรม จริยธรรม อยู่ในโลกของความเป็นจริง เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุขในสังคม

                                                                                                 เอกสารอ้างอิง

กิติมา ปรีดีดิลก. ทฤษฎีบริหารองค์การ. กรุงเทพมหานคร : ธนะการพิมพ์, 2529.
ธีรวุฒิ ประทุมนพรัตน์. ทฤษฎีการบริหารและการจัดองค์การ. สงขลา : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2531.
วิจิตร ศรีสอ้าน และคณะ. หลักและระบบบริหารการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2523.



วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กิจกรรมที่1

การจัดการชั้นเรียน  คือ  การจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพในห้องเรียน  การจัดการกับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาของนักเรียน  การสร้างวินัยในชั้นเรียน  ตลอดจนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครู  และการพัฒนาทักษะการสอนของครูให้สามารถกระตุ้นพร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจในการเรียน  เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
การบริหารการศึกษา   หมายถึง กิจกรรมต่างๆ ที่บุคคลหลายคนร่วมกันดำเนินการ เพื่อพัฒนาสมาชิกของสังคมในทุกๆ ด้าน นับแต่ บุคลิกภาพ ความรู้ ความสามารถ เจตคติ พฤติกรรม คุณธรรม เพื่อให้มีค่านิยมตรงกันกับความต้องการของสังคม โดยกระบวนการต่างๆ ที่อาศัยควบคุมสิ่งแวดล้อมให้มีผลต่อบุคคล และอาศัยทรัพยากร ตลอดจนเทคนิคต่างๆ อย่างเหมาะสม เพื่อให้บุคคลพัฒนาไปตรงตามเป้าหมายของสังคมที่ตนดำเนินชีวิตอยู่